หมายเหตุ: เกมที่ได้นำมาทดสอบยังคงอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา ดังนั้นคุณสมบัติบางอย่าง รวมไปถึงบาลานซ์ของเกม อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อวางจำหนา่ยในอนาคต
ว่าด้วยเกม RPG ที่หาเล่นได้ยาก พวกเราก็คงต้องพูดถึงชื่อ Romancing SaGa เป็นชื่อแรกๆ ด้วยการวางจำหน่ายภาคต้นฉบับที่จำกัดไว้เพียงแค่ในพื้นที่ประเทศญี่ปุ่นจนกระทั่งได้รับการแปลภาษาครั้งแรกเมื่อไม่นานมานี้เอง อย่างไรเสียด้วยระบบที่แปลกใหม่ของเกมแถมยังลงรายละเอียดไปในหลายๆ จุด ก็ทำให้มีผู้เล่นให้ความสนใจมากมาย และในปีนี้เราก็จะได้เห็นการกลับมาครั้งสำคัญของเกมภาคสองที่เป็นอีกหนึ่งภาคดังด้วย
แน่นอนว่าในเมื่อเป็นการรีเมคครั้งแรกนับตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว และเป็นการแปลภาษาอังกฤษอีกครั้งในรอบ 7 ปี ดังนั้น Square Enix ก็ไม่พลาดที่จะยกระดับความสนุกให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นด้วยการแปลงโฉมสู่รูปแบบสามมิติเต็มตัว ถ่ายทอดประสบการณ์การเล่นใหม่ที่ทันสมัย และในสัปดาห์ที่ผ่านมา ThisIsGame Thailand ก็ได้รับโอกาสจาก Square Enix เช่นเดียวกับ Bandai Namco Entertainment Asia ในการเข้าทดสอบเกมนี้กันก่อนใครเพื่อนำความประทับใจมาแบ่งปันกับผู้อ่านด้วย
เนื้อหาที่ได้มีการนำมาทดสอบจะได้รับการแบ่งออกเป็นสองส่วนคือช่วง Goblin Invasion ที่เป็นเรื่องราวของ Gerald ลูกชายแห่งกษัตริย์ Leon ที่ต้องป้องกันการรุกรานจากเหล่าก็อบลินปีศาจหลังจากการสิ้นพระชนม์ และนี่นับเป็นครั้งแรกที่เขาจะได้รับหน้าที่เป็นผู้บัญชาการสืบทอดจากกษัตริย์ก่อนหน้า และพิสูจน์ตัวเองในฐานะผู้นำ ซีนเหล่านี้ถูกพัฒนาใหม่ด้วยเทคโนโลยีสามมิติทั้งหมด รองรับการให้เสียงพากย์ด้วยเช่นกันครับ และเนื้อเรื่องจะไปจบลงที่คฤหาสน์ของ Kzinssie หนึ่งในวีรบุรุษยุคโบราณที่กลายมาเป็นฝ่ายร้าย
ขณะเดียวกันเนื้อเรื่องส่วนที่สองจะเป็นช่วง Sunken Ship ที่ย้ายช่วงเวลามาเป็นผู้สืบทอดคนใหม่ต่อเนื่องหลังจาก Gerald เป็นเวลาหลายสิบปี โดยใน่สวนนี้ทีมจะนำโดย Luna และปาร์ตี้เต็มตัวที่อัปเกรดความสามารถมาทั้งหมด เพื่อไปต่อสู้กับอีกหนึ่งวีรบุรุษวายร้ายคือ Subier เจ้าแห่งท้องทะเล งานภาพโดยรวมแล้วเปลี่ยนขึ้นมาเป็นเกม RPG สเกลบิ๊กเบิ้มยิ่งกว่าเดิมเห็นได้ชัด ส่วนหนึ่งเพราะเกมต้นฉบับเป็นเทคโนโลยี 16-bit แบบ Super Famicom นั่นเอง เราสามารถเดินไปมา สำรวจรายละเอียดฉากต่างๆ ได้อย่างอิสระ พร้อม QoL เช่นการตีศัตรูก่อนเพื่อทำดาเมจล่วงหน้า การวิ่งเร็ว และความเร็วโดยรวม
ที่น่าชื่นชมคือจังหวะการเล่าเรื่องของเกมที่รวดเร็วยิ่งขึ้น แถมยังประกอบด้วยคัตซีนสั้นๆ และเกมเองก็เข้าถึงได้ค่อนข้างง่ายเพราะเพิ่มโหมดการเล่นระดับ Casual สำหรับมือใหม่เพื่อเอ็นจอยกับเนื้อเรื่อง แต่ใครที่อยากได้ความท้าทายจะมีโหมดเรียกว่า Hard ที่ยากได้เทียบเท่าภาคต้นฉบับ และการเดินทางในเกมแม้จะไม่เป็นโอเพนเวิลด์ แต่นั่นก็เป็นจุดที่ทำให้ผู้เล่นเข้าใจการเล่น และโครงสร้างการออกแบบแผนที่แบบง่ายๆ และที่สำคัญที่สุดก็คือการตัดสินใจเลือกเส้นทาง พูดคุยตอบคำถามจะส่งผลต่อเส้นเนื้อเรื่องด้วย เช่นการต่อสู้กับ Kzinssie ที่เราอาจจะเลือกไปตบเกรียนกองทัพก็อบลินเพื่อเก็บเวลก่อนพลางๆ
ระบบการต่อสู้ในเกมนี้จะเป็นไทม์ไลน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแฟรนไชส์อยู่แล้ว เราสามารถตรวจสอบลำดับการต่อสู้ ป้อนคำสั่ง เพื่อเลือกวิธีการต่อกรกับศัตรูให้ดีที่สุด โดยจุดที่เพิ่มเข้ามาก็คือการบอกจุดอ่อนของศัตรูที่เห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และยังมีท่าประสาน รวมไปถึงท่าโจมตีที่แรงขึ้น และความสำคัญก็คือระบบ Glimmer ที่ผู้เล่นจะปลดล็อกท่าต่อสู้ใหม่ๆ ได้จากการใช้ท่าที่มีสัญลักษณ์หลอดไฟที่จะปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ นั่นเอง และท่าโจมตีพิเศษเหล่านี้จะมีการกินแต้ม BP ด้วย
แม้จะดูเป็นการต่อสู้คล้ายเทิร์นเบสแบบเกม RPG ทั่วไป แต่ขอบอกว่ารายละเอียดไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เพราะผู้เล่นจะต้องมีปัจจัยพิจารณาการเลือกท่าต่อสู้อื่นๆ อีก เช่น Overdrive ซึ่งทุกครั้งที่เราทำดาเมจศัตรูจะมีการเก็บเกจดังกล่าว เมื่อเต็มแล้วจะออกทาประสานได้ และเรายังสามารถตั้งค่า Battle Formation หรือตำแหน่งการยืนของสมาชิกในปาร์ตี้ เพื่อรับบัฟพิเศษ เช่นการยืนเรียงแถวที่เป็นรูปแบบธรรมดา หรือ Imperial Cross ที่จัดตำแหน่งเป็นท่ายืนรูปสัญลักษณ์บวก ที่ตัวละครด้านหน้าได้บัฟป้องกันและมีโอกาสโจมตีได้ก่อน ส่วนตัวละครปีกหลังจะลดโอกาสโดนโจมตีครับ
สำหรับใครที่เคยเล่นเกมต้นฉบับและชื่นชอบความโหดอาจจะรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของเกมนั้นค่อนข้างไปทางที่ดูจะง่ายและเป็นมิตรเกินไปสักนิด แต่สำหรับมุมมองผมก็คิดว่าเมื่อมันประกอบด้วยความที่เกมไม่ได้มีส่วนตรงๆ เชื่อมโยงกับภาคอื่น ก็เลยทำให้ Romancing SaGa 2 เป็นภาคที่เหมาะสมมากๆ ที่เราจะลองมาเริ่มเล่นกัน โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดเดโมอีกหนึ่งตัวมาลองเล่นกันได้แล้วด้วยเช่นกันทั้งบน PlayStation Store, Nintendo eShop และ Steam ครับ
เกี่ยวกับ Romancing SaGa 2: Revenge of the Seven
เกมภาครีเมคของผลงาน SaGa 2 ที่เคยวางจำหน่ายในญี่ปุ่นเมื่อปี 1993 โดยมาพร้อมกราฟิกแบบสามมิติและเสียงพากย์ทั้งภาษาอังกฤษ – ญี่ปุ่น รวมไปถึงเพลงประกอบที่เรียบเรียงใหม่โดยเฉพาะ เรื่องราวเกี่ยวข้องกับเหล่า 7 นักรบในตำนานที่ได้ชื่อเป็นผู้ไถ่แห่งอาณาจักร แต่กลับถูกส่งตัวไปยังโลกต่างมิติโดยกลุ่มบุคคลลึกลับที่ชักใยเบื้องหลังโลกยุคปัจจุบัน กระทั่งหลายพันปีต่อมา พวกเขากลับกลายเป็นผู้นำกองทัพปีศาจในที่สุด และในฐานะผู้ครองเมืองทำให้เราต้องต่อกรกับอดีตวีรบุรุษลงให้ได้
เกมมาพร้อมกับเรื่องราวที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการเลือกตอบคำถามหรือการกระทำของผู้เล่น ทำให้ประสบการณ์การเล่นนั้นมีความแตกต่างกันในทุกรอบ อีกทั้งการเลือกต่อสู้กับกลุ่ม 7 นักรบในลำดับต่างๆ ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับฉากจบด้วย โดยผู้เล่นจะมีพรรคพวกที่สามารถเลือกเป็นองครักษ์หรือคู่หูได้มากมาย พร้อมคลาสกว่า 30 คลาส ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ พร้อมจำหน่ายในวันที่ 24 ตุลาคม บน PlayStation 5, Nintendo Switch และ PCคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
Romancing SaGa 2: Revenge of the Seven Square Enix Tokyo Game Show 2024